062 ธรรมปัจเวกขณ์
การประพฤติปฏิบัติที่เราสังวรระวัง และละล้างกันอยู่ ของนักปฏิบัติ คือแกนกาม กับแกนมานะนี่ เป็นหลักสำคัญ ที่จะต้องสังวร รู้ตัวอยู่เสมอๆ เพื่อที่จะได้ไม่หลงไป ข้างใดข้างหนึ่ง ถ้าเผลอ เราก็จะหลุด เราก็จะขาด เราจะบกพร่อง แกนกาม ก็คือ เราจะต้องไม่พยายามจะปล่อย ให้มันเสริมกิเลสส่วนกาม เพื่อที่ไปสู่ กามสุขัลลิกานุโยค และ แกนมานะ ก็เพื่อที่จะไม่ตกไปสู่ทาง อัตตกิลมถานุโยค เพราะเราจะต้องมา ละกาม มา ละอัตตา คือมา ละมานะ กามเป็นของหยาบกว่า เราก็พูดกันพอรู้เรื่อง แล้วเราก็ได้พยายาม สังวรตนเอาเอง ใครรู้มาก รู้จริง รู้ชัด และมีสติ มีความเพียรที่จะพยายามละล้าง ของตนๆ ก็ย่อมได้การละ กามสุขัลลิกะ ไปเรื่อยๆ ถ้าผู้ใดรู้ตัวมานะ รู้อัตตา รู้อย่างมีสติเช่นกัน มีสติรู้ วิจัยรู้ แล้วก็พยายามลด พยายามละจริงๆ อย่าให้มันใหญ่กว่าเรา เป็นอันขาด มันยิ่งรู้ตัวยากกว่ากาม เพราะว่ามันยึดตัวยึดตน มันยึดดี ยึดความหลง ของตนว่าถูก หรือความจริงของตนว่าถูก แล้วมันก็ไม่ฟังเสียงใคร นี่แหละ เป็นตัวที่ร้ายกาจอยู่ ยิ่งอยู่กัน อย่างสามัคคี ก็จะไม่สามัคคี จะอยู่ร่วมกันได้ มันก็ไม่อยู่ร่วมกันได้ แม้จะมีความดี กันบ้างแล้ว ดังที่เป็นตัวอย่าง มีอยู่ว่า ความดี แต่เสร็จแล้ว ก็ต้องพรากจากกัน จากหมู่ จากกลุ่ม น่าเสียดายที่สุด ถ้าไร้ซึ่ง ความดีเสีย ก็ไม่มีปัญหา ไม่น่าเสียดายอะไร เพราะฉะนั้น ขอให้สังวร ในเรื่องมานะ ในเรื่องอัตตา ให้สำคัญมากๆ เพื่อจะได้เป็นเนื้อเป็นมวล จะได้อยู่ช่วยกัน จะได้สร้างสรรกัน ให้ทวีคูณ มันทำลายตน และ ทำลายสังคม คือ ทำลายตนแล้ว ก็ไม่ได้ร่วมอยู่กับสังคมที่ดี ไม่ได้ร่วมอยู่ในมิตรดี สหายดี สังคมสิ่ง แวดล้อมดี ก็ไม่ได้เป็นเนื้อเป็นมวล ที่จะให้สร้างสรรสิ่งดี ให้แก่สังคม ประเทศชาติ หรือ มนุษยชาติในโลก ต่อไปนั่นเอง จึงขอย้ำเตือนเรื่องมานะ เรื่องอัตตาที่ลึกซึ้ง ละเอียดกว่ากามนะ และก็ขอให้ละลด หรือว่าเรียนรู้ ให้รู้ยิ่งรู้จริง แล้วก็ต้องพยายามตัด สิ่งละ สิ่งลดจริง เราจึงจะได้เจริญต่อไปอีก เป็นรอบกว้าง และ รอบลึก สูงไกลไปอีก อย่างที่หาประมาณ มิได้. ธรรมปัจเวกขณ์ ๒๕๒๖
|